intrendmall

intrendmall

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

กระเป๋า Everyday Messenger จาก Peak Design ที่ทุกคนรอคอย




The Everyday Messenger™ เป็นกระเป๋าที่ถูกออกมาแบบมาอย่างฉลาดล้ำ ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม และฟังก์ชั่นการใช้งานที่สุดยอด เหมาะสำหรับช่างภาพ, นักเดินทาง และทุกๆคน!

The Everyday Messenger™ เป็นมากกว่ากระเป๋ากล้องธรรมดา เพราะเป็นกระเป๋าที่คุณสามารถใช้งานได้ในทุกวัน และมีสิ่งที่กระเป๋าธรรมดาทั่วไปไม่มี!

มาพร้อมสีเทา Charcoal


และสีน้ำตาล Heritage Tan

The Everyday Messenger นี้จะทำให้ทุกวันของคุณเป็นวันพิเศษ ไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมอะไร




กระเป๋า The Everyday Messenger สุดยอดอย่างไร!
มาดูกันเลย!


สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ของคุณได้อย่างไม่จำกัด!

กระเป๋ากล้องทั่วไป... เป็นโฟม ขนาดใหญ่ ดูเทอะทะ และมักมีรูปทรงสี่เหลี่ยม
แต่เอิ่มม...  กล้องกับเลนส์ของเรา มันไม่ได้รูปทางสี่เหลี่ยมนะ

มี FlexFold™ จะช่วยให้สามารถแบ่งช่องภายในกระเป๋าให้เป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น
(NOTE: สีของ FlexFold™ ของจริงจะเหมือนกับสีของด้านในกระเป๋า)

ไม่ใช้แค่กระเป๋ากล้อง แต่เป็นกระเป๋าที่สามารถใช้งานได้ในทุกๆวัน

Peak Design ได้ออกแบบโครงของกระเป๋ามาอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะใส่ของมากหรือน้อย
The Everyday Messenger ยังคงสามารถคงรูปร่างของมันไว้ได้อย่างดีเยี่ยม!

FlexFold™ จะช่วยทำให้กระเป๋าสามารถขยายหรือย่อขนาดได้โดยที่ไม่เสียรูปทรง
ตัวแบ่งช่องทั่วไปจะหนาและโดนกำหนดขนาดและรูปร่างไว้ ทำให้ใช้งานได้ไม่ดี
(NOTE: สีของ FlexFold™ ของจริงจะเหมือนกับสีของด้านในกระเป๋า)


สามารถจุได้ 13.5 ลิตรถึง 20.5 ลิตร โดยไม่เสียรูปร่าง!
กระเป๋าที่เสียรูปทรงคงไม่มีใครชอบนักหรอก

สุดท้าย The Everyday Messenger สามารถไปกับคุณได้ทุกที่

ไม่ว่าจะเป็นในวันสบายๆ วันทำงาน ท่องเที่ยว ขี่จักรยาน ปีนเขา เดินป่า และในทุกกิจกรรม

 
สายกระเป๋าทำจากวัสดุเหมือนเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ มี pad ยางที่ซ่อนไว้ด้านใน ทำให้รู้สึกนุ่มสบาย เวลาใช้งาน สามารถเป็นกระเป๋าแมสเซนเจอร์ กระเป๋าสะพายข้าง หรือสะพายไหล่ก็ได้
ยิ่งกว่านั้นสามารถถอด stabilizer strap ออกและใช้งานเป็นสายคาดเอวเพราะการจายแรงได้อีกด้วย!


ขาตั้งกล้องหรอ?
ไม่ใช่เรื่องยาก เราออกแบบมาเพื่อขาตั้งกล้องคุณด้วย!
สอดขาตั้งกล้องไปที่ปกหน้าของกระเป๋าและใช้ silicone band(มีมาให้ใน package)รัดขาตั้งกล้องไว้
เพียงเท่านี้ ขาตั้งกล้องก็พร้อมออกทริปกับคุณแล้ว!


สายกระเป๋าปรับความยาวได้อย่างง่ายมาก
นำ shoulder strap ไปคล้องไว้กับกระเป๋าเดินทาง หรือ ใช้ stabilizer strap คล้องหูกระเป๋าได้

หยิบทุกอย่างได้ทันทีที่ต้องการ!

มือของคุณจะต้อง "ว่าง" อยู่เสมอ!
พร้อมที่จะจับกล้อง พร้อมที่จะอุ้มลูกและพร้อมที่จะสนุกสนานกับชีวิต
ดังนั้น Peak Design จึงได้สร้างประวัติศาสตร์การออกแบบวิธีการเปิด-ปิดกระเป๋าแบบใหม่!
ด้วย MagLatch™ จาก Peak Design (patent-pending)
MagLatch™ เป็นสลักแม่เหล็กที่เปิด-ปิด ได้อย่างปลอดภัย แนบสนิท และทำได้ด้วยมือข้างเดียว!
สามารถล็อคได้ 4 ระดับ ปรับตามปริมาตรของกระเป๋า

บางครั้งที่คุณต้องการเปิดกระเป๋าอย่างรวดเร็ว The Everyday Bag มี "quick-zip" ที่จะทำให้คุณหยิบของได้โดยที่ไม่ต้องเปิดฝากระเป๋า!
และยังมีช่องด้านนอกอีกมากมายเพื่อรองรับความต้องการของช่างภาพ นักเดินทาง และทุกๆคน
ด้านหน้า : มีช่องตาข่าย 8 ช่อง เพื่อความสะดวกที่มากขึ้น
ด้านบน : มีช่องซิป(กันน้ำ) เพื่อให้สามารถหยิบของที่ช่องหลักได้อย่างรวดเร็ว

อะไรเร็วกว่าการที่คุณต้องหยิบกล้องออกมาจากกระเป๋า?
คำตอบคือ หยิบกล้องที่อยู่ด้านนอกกระเป๋าอยู่แล้วยังไงล่ะ!
Peak Design เริ่มต้นบริษัทด้วย Capture® ที่จะเปลี่ยนวิธีการพกกล้องของคุณไปตลอดกาล
เพราะฉะนั้นเราจึงออกแบบ "จุดที่เหมาะสมที่สุดที่จะติด Capture®" ขึ้นมา


The Everyday Bag สามารภใส่ laptop ขนาด15 นิ้วได้อย่างสบายๆ และปลอดภัย
นี่แหล่ะ! กระเป๋าสำหรับทุกคนไม่เฉพาะช่างภาพเท่านั้น!

มีช่องที่สามารถใส่ของเล็กน้อยๆ  และยังมี Anchor Link ที่คล้องไว้ที่กุญแจได้ที่ช่องด้านข้างอีกด้วย!

ปกป้องทรัพย์สินของคุณคือเป้าหมายหลัก

The Everyday Bag ข้อดี คือ จุของได้เยอะ กันน้ำ กันโคลน
และยังมีบุด้านข้าง เพื่อปกป้องกล้องและทรัพย์สินของคุณให้ดียิ่งขึ้น
ด้านนอก: ทำจาก Kodra® synthetic canvas เป็นผ้ากันน้ำ น้ำหนักเบา และมีโฟมกันกระแทก

ด้านใน: ทำจากเส้นใยโพลิเมอร์ เดินด้ายทะแยงมุมเพื่อป้องกันการกระแทก

Peak Design ได้ออกแบบ The Everyday Bag มา 
โดยมั่นใจว่าทุกชิ้นส่วนของกระเป๋าใบนี้จะใช้งานได้ไปอีกนานแสนนาน..จนคุณจะคิดไม่ถึงเลยทีเดียว!

It looks totally dialed, with zero slop.

สายที่ห้อยระโยงระยาง ผลิตจากผ้าถูกๆ ทำจากพลาสติดห่วยๆ ทั้งหมดนี้ คือการออกแบบที่ "ไม่ดี"
กระเป๋าทั่วไปในตลาดมักจะ "ห่วย" เพราะต้องทำราคาให้ถูก
Peak Design สร้าง The Everyday Bag มาให้เพื่อกำจัดความ "ไม่ดี" ทั้งหมดออกไป
ด้วย วัสดุที่ดี การออกแบบที่ล้ำสมัย และการใช้งานที่ดีที่สุดที่กระเป๋าควรจะเป็น!
เราใช้งานพื้นที่ด้านในของกระเป๋ามากพอๆกับด้านนอก ทำให้ Peak design ได้ออกแบบบริเวณด้านในของกระเป๋าอย่างดีที่สุด เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของทุกคนได้อย่างลงตัว
 



วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

รีวิว foldio2 สตูดิโอจิ๋ว ที่ทั้งใหญ่ขึ้น ฉลาดขึ้น แต่ยังพกสะดวกเหมือนเดิม

สวัสดีค่ะ ^_^ หลังจากห่างหายไปนาน 
(นานมาก นานจริงๆ นานจน foldio คลอดรุ่น foldio2 กันออกมาเลยทีเดียว)

วันนี้หวานจะมารีวิวกล่องสตูดิโอถ่ายภาพจิ๋วที่มีชื่อว่า foldio กันค่ะ 
แต่ว่าไม่ใช่ foldio ธรรมดาค่ะ  เพราะเป็น foldio 2 ที่ดีขึ้นกว่าเดิม! 
มีอะไรดีขึ้นบ้าง  ต้องมาติดตามกันในรีวิวนี้เลยค่ะ :) 

foldio2 เข้าไทยมาประมาณ 3 เดือนแล้วค่ะ 
ด้วยราคาเปิดตัว 3,300 บาท เท่านั้น 
เรามาลองดูรีวิวเล็กๆของเจ้า foldio2 กันดีกว่าค่ะ :)

foldio คืออะไร?

foldio คือ กล่องสตูดิโอถ่ายภาพแบบพกพา 
ใช้งานง่าย สะดวก สามารถพกไปด้วยได้ทุกที่
โดย foldio มีสโลแกนว่า 
"ให้คุณสามารถถ่ายภาพได้แบบมือโปรด้วยมือถือ เพียงเครื่องเดียว"
แค่สโลแกนก็เจ๋งแล้วใช่ไม๊ล่ะคะ ^_^

แล้ว foldio2 มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
1. ขนาดใหญ่ขึ้น
2. ไฟเสถียรขึ้น
3. มี Backdrop ให้หลายสีมากขึ้น
4. ไฟ LED เพิ่มลูกเล่นมากขึ้น
5. มาพร้อม App foldio ที่ทำให้การถ่ายรูปนั้นเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น

เราลองมาดูความเปลี่ยนแปลงของ foldio2 กันทีละข้อดีกว่าค่ะ 

1. ขนาดใหญ่ขึ้น
foldio1 นั้นมีขนาด ก*ย*ส 10.2 นิ้ว  
แต่ของ foldio2 นั้นขยายให้จุใจกว่าเดิมถึง 15นิ้วเลยทีเดียวค่ะ 
เพื่อให้เพื่อนๆได้สามารถถ่ายภาพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ 
ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตา โมเดล กระเป๋า หมวก จานอาหาร ขนมเค้ก หรือแม้กระทั่ง รองเท้า
ก็สามารถใช้ foldio 2 ถ่ายได้ง่ายๆเลยค่ะ
อยากบอกว่าหวานลองเอารองเท้ากีฬาผู้ชายเบอร์ 9.5 ใส่มาแล้วค่าาา  ก็ยังไหววว



2. ไฟเสถียรขึ้น
เนื่องจาก foldio1 นั้นแหล่งจ่ายไฟของเค้าจะเป็นถ่ายไฟฉายขนาด 9V ค่ะ  
ข้อดีของถ่าย 9V คือ สามารถหาซื้อได้ง่าย และทำให้ foldio1 เนี่ย สามารถพกพาไปถ่ายได้ด้วยทุกที่ค่ะ 
แต่ข้อเสียของการใช้ถ่านคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ถ่านอ่อน!   ไฟมันก็จะอ่อนตามค่ะ T______T


ทำให้ใน foldio2 นั้น ทางผู้ผลิตเค้าได้แก้ไขในจุดนี้ค่ะ 
 โดย foldio2 นั้น แหล่งจ่ายไฟคือ ไฟบ้านค่ะ !!
ต่อกันให้หนำใจกันไปเลย ไม่ต้องกลัวไฟอ่อนค่ะ  ต้องกลัวอย่างเดียวคือไฟดับค่ะ
และใน foldio2 นั้น เค้าจะมี LED มาให้ถึง 2 เส้นเลยค่ะ สามารถเลือกติดได้ค่ะ 

3. มี Backdrop ให้หลายสีมากขึ้น
ในกล่องของ foldio1 นั้นจะมี Backdrop มาให้แค่ ขาว เทา ดำ  
แต่ของ foldio2 นั้น แถมสีเขียวมาให้อีก 1 สี และพื้นหลังสีเขียนนี้ 
ทำให้เราสามารถตัดต่อภาพสินค้าของเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย


4. ไฟ LED มีลูกเล่นมากขึ้น 
จาก foldio1 ที่ LED ต่อกับถ่าน 9V เมื่อเราต่อถ่านกับ LED ไฟก็จะติดทันที 
แต่ไฟ LED ของ foldio2 นั้นสามารถปรับเพิ่ม-ลด ความสว่างแสงได้ (มี dimmer) 
และยังมี diffuser ช่วยกระจายแสงให้ดียิ่งขึ้น ทำให้แสงไม่กระด้าง 
การถ่ายรูปได้ง่ายและสวยงามมากขึ้นอีกด้วย!
5. มาพร้อม App foldio
เจ้า App foldio นี้ ใช้งานง่ายมาก และจะทำให้การถ่ายรูป และแต่งรูปของเรานั้น ง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆ
app foldio นี้ มีฟีเจอร์เด็ดๆ ดังนี้

5.1 สามารถปรับเพิ่ม-ลด ความสว่างได้ 
นอกจากเราจะปรับ เพิ่ม-ลด ความสว่างของ หลอด LED แล้ว ใน app foldio เราก็ยังสามารถปรับให้มันสว่างขึ้นไปอีกได้! เพียงเลื่อนนิ้วขึ้น-ลง เท่านั้น!

5.2 สามารถปรับโทนสีของภาพได้ 
เราสามารถปรับโทนสีของสินค้าได้จาก app foldio เพียงเลื่อนนิ้ว ซ้าย-ขวา เท่านั้น
5.3 โหมดตัดพื้นหลัง
เป็นโหมด chromakey โดยเราสามารถเลือกสีที่จะให้ app foldio ตัดออก
และกลายเป็นภาพที่เราต้องการได้ง่าย ด้วยโหมดนี้!
โอเคค่ะ  หลังจากที่เรารู้ข้อดีคร่าวๆของเจ้า foldio2 ไปแล้ว  
เรามาดูตัวจริงกันเลยดีกว่าค่ะ 

อุปกรณ์ในกล่อง foldio จะมีอุปกรณ์มาให้ดังนี้ค่ะ

1. กล่อง foldio2 ขนาด ก*ย*ส 15 นิ้ว (38 ซม.)
2. สายไฟเพื่อต่อกับไฟบ้าน จะมีหัวเปลี่ยนมาให้ถึง 4 หัวด้วยกัน (US/UK/EU/AU)
3. หลอดไฟ LED 2 เส้น มาพร้อม Dimmer และ diffuser
4. Backdrop 4 สี ขาว เทา ดำ และเขียว

วิธีการประกอบ foldio ก็แสนง่าย 
ทำได้ง่ายๆภายในไม่เกิน30 วินาที!
พร้อมใช้งาน!
และหากใช้งานเรียบร้อยแล้ว 
เราก็สามารถเก็บเจ้า foldio ได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
และที่สำคัญ เมื่อพับเก็บ จะมีขนาดเพียง 15*15*1 นิ้ว เท่านั้น!
อยากได้เจ้า foldio มาลองเล่นกันแล้วล่ะสิ! 
ครั้งหน้าหวานจะมารีวิวอะไรอีก ติดตามกันได้นะคะ
ขอบคุณค่า 
************************************ 
INTRENDMALL - อัพเดทสินค้าสุดฮอตให้คุณมีก่อนใคร ติดตามข่าวสาร สินค้ามาใหม่ที่ฮอตสุดฮิต ได้ที่นี่เลยจ้า
Follow Website : www.intrendmall.com

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

foldio สตูดิโอถ่ายภาพขนาดพกพา ที่พ่อค้าแม่ค้า และนักสะสม ไม่ควรพลาด

สวัสดีค่าาา
ห่างหายกันไปน๊านนนานนน

ตอนนี้เรากำลังอยู่ในยุคที่อินเตอร์เนตเร็วกว่าความเร็วแสงค่ะ!!
ทำให้ปัจจุบันเกิดพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขึ้นมากมาย
และหวานเองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ที่ต้องการจะถ่ายรูปสินค้าของตัวเองมาขาย
ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook, Instagram หรือเว็บไซต์

แต่ว่า.... หวานก็เจอปัญหาค่ะ T_T
เนื่องจากว่า อยากได้สตูดิโอถ่ายภาพมาถ่ายภาพสินค้าของตัวเอง
แล้วสตูดิโอถ่ายภาพในตลาดตอนนี้ ราคาแพงค่ะ!!!
หากตัวที่ราคาถูก วัสดุก็ดั๊นนนนถูก เกินรับได้ไปหน่อย -*-
ทำให้ยังไม่เจอตัวที่ถูกใจซักที
จนได้มาเจอนี่ค่ะ!!
เจ้านี่มีชื่อว่า foldio ค่ะ

foldio คืออะไร??  เรามาดูคลิปกันก่อนเลยค่ะ


สุดยอดเลยใช่ไม๊ล่ะคะ!!!

foldio เป็นสตูดิโอถ่ายภาพค่ะ  เป็นสตูดิโอที่สามารถพับเก็บได้ง่าย  กางออกมาใช้งานก็ง่าย
เหมาะสำหรับถ่ายภาพสินค้า ภายในมีการติดไฟ LED
ที่เหลือเราก็เพียงหยิบของไปวาง และเอามือถือมาถ่ายรูปสินค้าพร้อมโพสต์ขึ้นเว็บได้ทันที!!
เราสามารถใช้เจ้า foldio เนี่ย ถ่ายภาพสินค้าเพื่อลงขาย 
หรือถ่ายของเล่น ของสะสมของตกแต่งบ้าน 
หรือโมเดลที่เราชอบ ได้เยอะแยะมากมายเลยค่ะ
นี่เป็นตัวอย่างที่เค้าใช้ foldio ในการถ่ายรูปค่ะ ^_^

ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายรูปเครื่องประดับ
   

การถ่ายนาฬิกา
ถ่ายโมเดล, ถ่ายอาหาร อีกมากมายค่ะ
วันนี้หวานเลยจะพาเพื่อนๆมารีวิวเจ้า foldio กันค่ะ 
ที่หวานจะมารีวิววันนี้จะเป็นแบบ 2 LED นะคะ 
ในไทยมีจำหน่ายทั้งแบบ 1 LED และ 2 LED ค่ะ 
แต่ที่หวานจะมารีวิวตัว 2 LED เพราะว่ามันจะช่วยลดเงาตอนถ่ายภาพได้ดีกว่าค่ะ ^_^ 
หน้าตาเจ้า foldio เป็นแบบนี้ค่า มาพร้อม LED แยก 1 เส้น 
ที่ต้องแยก LED มา 1 เส้น เป็นเพราะว่า บางคน ชอบติดไฟ LED ด้านล่าง 
บางคนชอบติดด้านบน  บางคนชอบติดด้านหลัง  (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน)

เค้าเลยแยก ไฟ LED เส้นที่ 2 มาให้เราติดเองค่ะ 
หวานคิดว่าตรงนี้มันเป็นข้อดีอย่างนึงของเจ้า foldio เลยล่ะค่ะ ^_^ 
ด้านหลังกล่องจะมีเขียน Spec ของเจ้า foldio อยู่ค่ะ 

ขนาด(เมื่อเปิด) : 10.2*10.2*10.2 นิ้ว
ขนาด(เมื่อปิด) : 10.2*10.2*0.6 นิ้ว
แสงไฟ : ไฟ LED (สีขาว) 5700K
แบตเตอรี่ : ใช้ถ่าน 9V (ไม่มีแบตในกล่อง)
Backdrop : มี 3 สี ขาว, เทา, ดำ
อุปกรณ์ : สามารถใช้ได้ทั้งโทรศัพท์มือถือ และกล้องทุกรุ่น
วัสดุ : พลาสติกกันน้ำสีขาว
มีเขียนว่า "Made in Korea" อยู่ที่ด้านหลังด้วยค่ะ
พอเราแกะออกมา ด้านในจะประกอบไปด้วย
กล่อง foldio ของเรา 1 กล้อง มาพร้อมไฟ LED 1 เส้น 
Backdrop 3 สี (สีขาว เทา และสีดำค่ะ)
ถุงสีขาวสำหรับใส่ foldio ค่ะ

โอเคเสดปุ๊บ เราจะต้องมีอุปกรณ์เสริมนิดหน่อยค่ะ ในการใช้งาน 
ก็คือ เจ้านี่คือ  ถ่าน 9V ค่ะ (เพราะว่าเค้าไม่มีมาให้ในกล่อง เลยต้องซื้อแยก)

วิธีการประกอบเจ้า foldio นี่ง่ายมากเลยค่ะ
ไม่เกิน 20 วินาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
มาเป็นถาพดุ๊กดิ๊กให้ดูกันไปเลยยย!!
เพื่อนๆ งง กันไม๊คะ ว่าทำไม เจ้า foldio ถึงประกอบง่ายขนาดนี้???
ความลับของมันคือ เจ้านี่ค่ะ !!
อ่าว งง สิ  อะไรอ่ะ กลมๆ ????
มันคือ แถบแม่เหล็กค่ะ
เราก็แค่เอาแถบแม่เหล็กมาติดๆๆๆกันก็เสดเรียบร้อย ออกมาเป็นสตูดิโอแบบนี้ค่ะ ^_^

หลังจากนั้นก็ติดแบต 9V ลงไปก็จะออกมาเป็นสตูดิโอเรียบร้อยแล้วค่ะ  
เอ้ออ  ลืมเรื่อง Backdrop ไปเลย  555
เค้ามี Backdrop มาให้ 3 สีค่ะ มีสีขาว สีเทา แล้วก็สีดำ  หวานว่ามันดีมากๆเลยค่ะ 
เพราะทำให้เราใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นด้วยค่ะ ^^  
หวานไม่แน่ใจว่าวัสดุทำมาจากอะไร
แต่เหมือนเป็นโฟมเนื้อละเอียดๆอ่าค่ะ  ^_^
 อันนี้ก็เป็นภาพ ใช้ Backdrop ทั้ง 3 สีนะคะ

โอเคค่ะหวานก็ขอสรุปเจ้า foldio สตูดิโอพกพา ดังนี้ค่ะ
ข้อดี!
1. ขนาดกำลังดี พกพาง่าย และสามารถพับเก็บได้ค่ะ
2. ใช้งานง่าย เพราะใช้แค่ถ่าน 9V ไม่จำเป็นต้องต่อกับไฟบ้าน
3. ให้ Backdrop มาถึง 3 สี ทำให้ใช้งานได้หลากหลายมากค่ะ
4. วัสดุที่ใช้ทำกล่อง ทำจากพลาสติกกันน้ำค่ะ ทนทาน
5. ราคาไม่แพงค่ะ 1 LED แค่ 1795 บาท ( 2 LED ราคา 2100บาท) ราคานี้ คุ้มมากค่ะ!!

ข้อเสีย
1. หากเราต้องการถ่ายของที่ชิ้นใหญ่กว่า 10 นิ้ว  มันไม่พอค่ะ 5555
เพื่อนๆอาจจะต้องจัดพร็อพดีๆ แล้วหามุมถ่ายให้มันสวยๆค่ะ

สุดท้ายนี่หวานก็คิดว่า เจ้า foldio จะช่วยให้เพื่อนๆได้ถ่ายรูปสินค้าของตัวเอง
หรือว่าของสะสมได้ง่ายมากขึ้นค่ะ ^_^

ครั้งหน้าหวานจะมารีวิวอะไร ติดตามกันได้เลยค่า
ขอบคุณมากค่ะ

************************************ 
INTRENDMALL - อัพเดทสินค้าสุดฮอตให้คุณมีก่อนใคร ติดตามข่าวสาร สินค้ามาใหม่ที่ฮอตสุดฮิต ได้ที่นี่เลยจ้า
Follow Website : www.intrendmall.com