ไอเดียของขวัญผู้ชาย ของขวัญให้แฟน

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

Capture PRO กับ Capture Standard แตกต่างกันอย่างไร (Peak Design)

สวัสดีค่า

ครั้งที่แล้วที่หวานได้ทำรีวิวอุปกรณ์กล้องเริ่ดๆชิ้นนึง

ที่มีชื่อว่า CapturePRO Camera Clip แล้วได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก

>>สามารถกดอ่านต่อได้ที่นี่ค่ะ<<
(หากไม่สามารถเข้าได้ กด >>ที่นี่<< ค่ะ)

แต่ว่าในขณะเดียวกัน!!!

ก็ได้มีคนถามเข้ามาว่า “Capture Camera Clip” นี่มีรุ่นเดียวหรออ????

คำตอบคือ ไม่ใช่ค่ะ ^^

Capture Camera Clip ของ Peak Design มีด้วยกันถึง 2 รุ่นเลยค่้ะ

คือรุ่น Standard และรุ่น PRO

เพราะงั้นวันนี้หวานจะมารีวิวถึงความแตกต่าง

ระหว่าง Capture Camera Clip ทั้ง 2 รุ่นกันค่ะ

ความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนี้ หวานแบ่งไว้ง่ายๆ ทั้งหมด 4 ข้อด้วยกันค่ะ

มาดูหน้าตาของเจ้า Capture Camera Clip ทั้ง 2 แบบกันก่อนนะคะ

กล่องนี้จะเป็น Capture Camera Clip (Standard) ค่ะ ในรีวิวนี้ หวานขอเรียกสั้นๆว่า “CaptureSTD” นะคะ

ส่วนกล่องนี้จะเป็น CapturePRO Camera Clip ค่ะ ขอเรียกเป็น “CapturePRO” แทนเหมือนกันค่ะ ^^

ข้อแตกต่างแรกที่เจอเลย เด่นสุดๆ สีของกล่องค่ะ !! ^^ (เงิบ...)

โอเคค่ะ ผ่านไปค่ะ ไม่มีคนขำ T_______________T

ข้อแตกต่างแรก เมื่อเปิดกล่องขึ้นมาเลยก็คือ “ตัว Plate” ค่ะ (เข้าสู่โหมดจริงจังละ^^)

เราจะเห็นว่า plate ของตัว CapturePRO จะมีห่วง

สำหรับใช้คู่กับผลิตภัณฑ์อื่นของผู้ผลิต (Peak Design) ได้นะคะ

แต่ของ CaptureSTD นั้นจะไม่มีค่ะ (ตามภาพด้านล่าง)

ทำให้ถ้าเพื่อนๆต้องการใช้งาน Capture คู่กับ สายคล้องคอ (Leash) หรือ สายคล้องมือ (Cuff) ของ Peak Design แล้วเนี่ย หวานแนะนำเป็น CapturePRO จะดีกว่าค่ะ

แต่ทั้ง 2 แบบนี้มี “twist resistant pad” หรือแผ่นป้องกันกล้องหมุนทั้งคู่นะคะ ^^

ข้อแตกต่างข้อต่อมา เราจะยังอยู่กันที่ตัว Plate ค่ะ

คือ ด้านหลัง Plate ของตัว PRO นั้นจะมี D-ring ค่ะ

ทำให้เราสามารถใช้มือหมุนให้ Plate เข้าไปในกล้องได้เลย

และเราอาจจะใช้ประแจหกเหลี่ยมหมุนเพิ่มเพื่อทำให้เกลียวแน่นขึ้นค่ะ (ตามรีวิวครั้งที่แล้ว)

แต่พอเรามาดูที่ Plate ของ CaptureSTD แล้วเนี่ย มันจะไม่มีห่วงตัวนี้มาให้ค่ะ

ทำให้เราต้องใช้เหรียญในการช่วยหมุนในตอนแรก

แล้วใช้ประแจหกเหลี่ยมหมุนให้แน่นขึ้นในตอนหลังค่ะ

(หรือเราอาจจะใช้ประแจหกเหลี่ยมหมุนตั้งแต่แรกเลยก็ได้ค่ะ)

ข้อแตกต่างของ plate ก็มีเท่านี้ค่ะ

งั้นเรามาดูข้อแตกต่างที่ตัว Capture กันบ้างดีกว่าค่ะ

ตัว Capture ของทั้ง CaptureSTD และ CapturePRO คล้ายกันมากค่ะ ^^

ถ้ามองจากด้านหน้าแล้วไม่เห็นความแตกต่างกันเลยทีเดียว

(ก็แน่สิ!! ก็เพราะมันไม่แตกต่างกันยังไงล่ะ-*-)

ใช่แล้วค่ะ Capture ด้านหน้าของทั้ง 2 รุ่นจะไม่แตกต่างกันเลยค่ะ

วัสดุก็ทำมาจากอะลูมิเนียมเหมือนกันค่ะ

การใช้งานปุ่มปลดล็อคหรือปุ่มที่หมุนเพื่อให้ Plate แน่นมากขึ้นก็ไม่แตกต่างกันค่ะ

ใช้งานได้เหมือนกันทุกประการ ^^

แต่พอเรามาดูที่ด้านหลังของตัว Capture กันแล้วเนี่ย เราก็จะเห็นข้อแตกต่างข้อต่อไปค่ะ ^^

นี่ไง ข้อแตกต่างข้อต่อไป ด้านหลังของ CaptureSTD ไม่มีรูค่ะ!!!!!!

แต่ของ CapturePRO จะมีรูที่เอาไว้สำหรับใช้งานกับขาตั้งกล้องได้นั่นเองค่ะ

เพราะฉะนั้น หากช่างภาพท่านใดเป็นคนชอบใช้งานพร้อมขาตั้งกล้องแล้วเนี่ย

เหลือตัวเลือกเดียวเลยค่ะ คือ CapturePRO Camera Clip ^^

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงข้อแตกต่างข้อสุดท้ายของ CaptureSTD และ CapturePRO แล้วค่ะ

ข้อแตกต่างข้อสุดท้าย ก็คือ วัสดุของด้านหลังของตัว Capture ค่ะ

ถ้าเป็น CapturePRO เนี่ย วัสดุจะทำจากอะลูมิเนียมค่ะ

มีความแข็งแรง ทนทาน และรับน้ำหนักได้มาก

(อย่างที่ได้เคยรีวิวไว้ครั้งที่แล้วว่า CapturePRO เนี่ย ทำจากอะลูมิเนียมทั้งชิ้นค่ะ)

แต่ของเจ้า CaptureSTD แล้วเนี่ย

วัสดุด้านหลังจะทำมาจาก glass-reinforced nylon หรือ ไนลอนผสมเส้นใยแก้ว แทนค่ะ

ไม่ใช่อะลูมิเนียม

แต่ทางผู้ผลิต (Peak Design) ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทั้ง CaptureSTD และ CapturePRO เนี่ย

สามารถรับน้ำหนักได้เท่ากัน คือ 200 ปอนด์ หรือประมาณ 90 กิโลกรัมค่ะ

ข้อแตกต่างระหว่าง CapturePRO กับ CaptureSTD ก็มีเพียงเท่านี้ค่ะ ^^

เป็นยังไงกันบ้างคะ

ช่วยให้เพื่อนๆหลายคนตัดสินใจกันรึยัง

ว่าอยากได้ตัวไหนไว้ในครอบครอง ^^

สุดท้ายนี้ก้ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านกันมาถึงจุดนี้นะคะ ^^

ครั้งหน้าหวานจะมารีวิวอะไรให้ดูกันอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^^

ขอบคุณค่ะ

Cr: intrendmall

************************************

INTRENDMALL - อัพเดทสินค้าสุดฮอตให้คุณมีก่อนใคร ติดตามข่าวสาร สินค้ามาใหม่ที่ฮอตสุดฮิต ได้ที่นี่เลยจ้า

Follow Fanpage : https://www.facebook.com/intrendstuffl

Follow Twitter : https://twitter.com/InTrendMall

Follow Google+ : http://google.com/+ClipKumKum555

Follow Instagram : http://instagram.com/intrendmall

Follow Website : www.intrendmall.com

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

Polar pen ของขวัญสำหรับผู้ชาย ที่สาวๆพลาดไม่ได้

สวัสดีค่า

วันนี้หวานจะมารีวิวปากกาแท่งนึงค่ะ ^^ ที่มันเหมาะสำหรับเป็นของขวัญให้คุณผู้ชายมากๆค่ะ

ยิ่งถ้าคุณผู้ชายของสาวๆท่านใด เป็นพวก "คลั่งในพลังแม่เหล็ก" หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับเหล็ก เครื่องมือเหล็ก

อะแฮ่มมม~~ งง กันล่ะสิ แค่ปากกา มันจะเหมาะสำหรับผู้ชายแบบที่หวานบอกได้ยังไง??

ไม่ต้อง งง ไปค่ะ วันนี้หวานจะพาเพื่อนๆมาสังคยนาปากกาแท่งนี้กัน ^^

ชื่อของมันก็คือ POLAR PEN หรือปากกาหมีขั้วโลกค่ะ ^^

อ่าวไม่ใช่หรอ??? O_O??

เครๆๆๆ ผิดค่ะ ชื่อของมันคือ POLAR PEN หรือ ปากกาแม่เหล็กค่ะ ^^
รูปร่างหน้าตาก็เป็นแบบนี้ค่ะ
VVV
V

รู้สึกถึงความเริ่ดหรูของมันรึยังคะ ^^?? ยังหรอคะ 555555

แล้วเจ้า Polar pen เนี่ย มันเป็นยังไงกันล่ะ??

หวานก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงเหมือนกันค่ะ 5555 เอาเป็นว่า หวานเอาคลิปมาให้ดูกันเลยดีกว่า เพื่อนๆจะได้เข้าใจมากขึ้น ^^

ดูคลิป : POLAR PEN ปากกาแม่เหล็ก .

ดูคลิปแล้วเป็นยังไงคะ เริ่ดเลยใช่ม๊า~~~~~^^

เอาล่ะๆๆๆ เพราะว่าหวานดูคลิปนี้แหล่ะค่ะ มันเลยเกิดรีวิวนี้ขึ้นมา

รีวิวนี้เราจะมาแกะกล่อง Polar pen กันค่ะ

Polar pen ที่หวานจะเอามารีวิวในวันนี้เป็น Polar pen สีดำ ของแท้ ค่ะ

ทำไมหวานต้องบอกว่าเป็นของแท้ด้วยล่ะ?? มันมีของปลอมด้วยหรอ??

คำตอบ คือ ถูกต้องค่ะ มันมีของปลอมด้วย เพื่อนๆ สามารถดูว่า Polar pen เป็นของแท้ หรือของปลอมได้ ที่นี่ เลยค่ะ ^^

โอเคค่ะหลังจากที่เรามั่นใจแล้ว ว่า Polar pen ของเรานั้นเป็นของแท้แน่ๆนอน นอนแน่ๆ นะคะ

เรามารู้กันก่อนดีกว่า ว่าความจริงแล้ว Polar pen มีทั้งหมดกี่สี ~~~~~~~ทาด๊า~~~~~~~

จากภาพนะคะ เราจะเห็นว่า Polar pen มีทั้งหมด 3 สีค่ะ คือ สีทอง สีเงิน และสีมาใหม่เป็น สีดำ ค่ะ

แต่ในประเทศไทยตอนนี้มีจำหน่าย เพียงแค่ 2 สีเท่านั้นค่ะ คือ สีเงิน กับ สีดำ T_____T

เนื่องจากทางผู้ผลิตได้แจ้งว่า อยากจะเก็บ Polar pen สีทองไว้ขายเป็นของพรีเมี่ยมช่วงสิ้นปีนี้ค่ะ

ใครอยากได้Polar pen สีทอง ก็ต้องอดใจรอกันซักนิดนึงนะคะ

อ่าวแล้วเห็นมีขายสีทองกันเยอะเลย???

ก็นั่นแหล่ะค่ะ คุณเจอ Polar pen ของปลอมเข้าให้แล้วค่ะ เสียใจด้วยนะคะ T___T

โอเคค่ะ กลับมาที่ polar pen ปากกาแม่เหล็กของเรากันต่อ

เรามาลองดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอกของมันกันก่อนดีกว่าค่ะ

กล่องทำจากพลาสติกค่ะ โดยทำให้เราสามารถเห็นตัวปากกา polar ของเราอยู่ภายใน

ทำให้แอบรู้สึกหรูหน่อยๆแฮะ

พอเราเอาออกมาจากกล่องแล้วก็จะเป็นแบบนี้ ^^

อันนี้อย่างที่ได้บอกไว้ตอนต้นรีวิวนะคะ ว่าวันนี้เราจะมารีวิว Polar pen สีดำ กัน

อื้มมมม~~~~ สวยแฮะ 55555555

เรามาดูกันที่วัสดุกันค่ะ

Polar pen ของแท้สีดำของเราแท่งนี้ ทำมาจากแม่เหล็กนีโอไดเมียมค่ะ
ซึ่งเป็นแม่เหล็กถาวรแรงสูง (Neodymium Magnets)
แล้วจึงนำมาเคลือบด้วย Black Nickel ค่ะ ถึงได้มีสีดำ

แต่ถ้าเป็น Polar penสีเงินก็จะเคลือบด้วย Silver (เงิน) ค่ะ

ที่ตัวกล่องก็จะมีเขียนเช่นกันค่ะ ว่าสีดำ เคลือบด้วย Black Nickel

หวานลองแกะ Polar pen ของเราออกมานะคะ เราจะมาดูกันค่ะ ว่า Polar pen ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง??

1. ข้อเหล็ก 13 ข้อ

2. ไส้ปากกา หัว 0.4 สีดำ

3. หัว stylus

4. หัวปากกา

5. ห่วงที่เหน็บปากกา

6. จุกยางกันหัวปากกา

7. เหล็ก หัว- ท้าย ของปากกา

ทีนี้เราลองมาดูกันค่ะ ว่า Polar pen หรือปากกาแม่เหล็กนั้น สามารถทำอะไรได้บ้าง ^____________^

อย่างแรก เป็นปากกาค่ะ 5555 (แน่สิ -*-)

ต่อมา คือสามารถเป็น Stylus ได้ค่ะ นอกจากการเป็นทั้ง ปากกา และ Stylus แล้วเนี่ย มันก็คือ ของเล่นยามว่างดีๆนี่เอง^^

เรามาดูประโยนช์อย่างอื่นของมันกันบ้างดีกว่าค่ะ

นอกจากจะเป็นปากกาและ Stylus

เป็นที่เก็บลูกแม็ค หรือ คลิป ก้ได้นะเทอว์ 555

มันติดกับเหรียญได้ด้วยนะยูววว

หรือเอาไว้ควานหากุญแจในกระเป๋าก็ได้ ^^